สำหรับคนไทย

#ประเภทของยาคุมกำเนิด #เปรียบเทียบยาคุมกำเนิด #วิธีการเลือกยาคุมกำเนิด

WONIPHARMACY 2024. 11. 11. 11:23

 

ส่วนประกอบและลักษณะของยาคุมกำเนิด:

ยาคุมกำเนิดโดยทั่วไปประกอบด้วยฮอร์โมนสองชนิดคือ เอสโตรเจนและโปรเจสติน โดยแต่ละชนิดมีความแตกต่างกันตามประเภทของโปรเจสตินและปริมาณของเอสโตรเจน

1. การรวมกันของเกสโทเดน (Gestodene) และเอธินิลเอสตราไดออล (Ethinyl Estradiol)

  • Meliane: Gestodene 0.075mg + Ethinyl Estradiol 0.02mg
  • Myviora: Gestodene 0.075mg + Ethinyl Estradiol 0.03mg
  • Senslibe: Gestodene 0.075mg + Ethinyl Estradiol 0.02mg
  • Dearmee: Gestodene 0.075mg + Ethinyl Estradiol 0.02mg
  • Dearmee Soon: Gestodene 0.06mg + Ethinyl Estradiol 0.015mg

คุณสมบัติ: Gestodene เป็นโปรเจสตินรุ่นที่สามที่ช่วยลดสิวและมีแนวโน้มที่จะไม่ทำให้น้ำหนักเพิ่ม ปริมาณ Ethinyl Estradiol ต่ำระหว่าง 0.015~0.03mg สามารถลดผลข้างเคียงเช่นคลื่นไส้และปวดหัวได้ แต่บางคนอาจมีโอกาสเสี่ยงต่อการมีเลือดออกเพิ่มขึ้น

2. การรวมกันของเลโวนอร์เจสเตรล (Levonorgestrel) และเอธินิลเอสตราไดออล (Ethinyl Estradiol)

  • Alesse: Levonorgestrel 0.1mg + Ethinyl Estradiol 0.2mg

คุณสมบัติ: Levonorgestrel เป็นโปรเจสตินรุ่นที่สองที่อาจทำให้น้ำหนักเพิ่มและเกิดการบวมน้ำได้ แต่มีความเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดต่ำกว่าโปรเจสตินอื่นๆ

3. การรวมกันของเดโซเจสเตรล (Desogestrel) และเอธินิลเอสตราไดออล (Ethinyl Estradiol)

  • Sensday: Desogestrel 0.15mg + Ethinyl Estradiol 0.02mg
  • Mercilon: Desogestrel 0.15mg + Ethinyl Estradiol 0.02mg

คุณสมบัติ: Desogestrel ช่วยลดสิวและผลข้างเคียงที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงน้ำหนักน้อย แต่มีความเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดเพิ่มขึ้น

#ประเภทของยาคุมกำเนิด #การเปรียบเทียบยาคุมกำเนิด #วิธีเลือกยาคุมกำเนิด

ส่วนผสมและลักษณะของยาคุมกำเนิด:

ยาคุมกำเนิดประกอบด้วยฮอร์โมนหลักสองตัวคือ เอสโตรเจนและโปรเจสติน โดยแต่ละชนิดจะมีการผสมผสานของโปรเจสตินและปริมาณเอสโตรเจนที่แตกต่างกัน

1. การผสมผสานของ Gestodene + Ethinyl Estradiol

  • Meliane: Gestodene 0.075mg + Ethinyl Estradiol 0.02mg
  • Myviora: Gestodene 0.075mg + Ethinyl Estradiol 0.03mg
  • Senslibe: Gestodene 0.075mg + Ethinyl Estradiol 0.02mg
  • Dearmee: Gestodene 0.075mg + Ethinyl Estradiol 0.02mg
  • Dearmee Soon: Gestodene 0.06mg + Ethinyl Estradiol 0.015mg

ลักษณะ: Gestodene เป็นโปรเจสตินรุ่นที่ 3 ที่ช่วยลดสิวและมีความเสี่ยงที่จะเพิ่มน้ำหนักต่ำ ปริมาณของ Ethinyl Estradiol ที่ต่ำ (0.015~0.03mg) ช่วยลดอาการข้างเคียงเช่น คลื่นไส้ ปวดหัว และการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนัก แม้ว่าอาจทำให้มีเลือดออกจากช่องคลอดได้บางกรณี

2. การผสมผสานของ Levonorgestrel + Ethinyl Estradiol

  • Alesse: Levonorgestrel 0.1mg + Ethinyl Estradiol 0.2mg

ลักษณะ: Levonorgestrel เป็นโปรเจสตินรุ่นที่ 2 ที่อาจทำให้เพิ่มน้ำหนักและบวมได้ แต่มีความเสี่ยงที่จะเกิดลิ่มเลือดต่ำกว่าประเภทอื่นๆ

3. การผสมผสานของ Desogestrel + Ethinyl Estradiol

  • Sensday: Desogestrel 0.15mg + Ethinyl Estradiol 0.02mg
  • Mercilon: Desogestrel 0.15mg + Ethinyl Estradiol 0.02mg

ลักษณะ: Desogestrel ช่วยลดสิวและมีการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักน้อย แต่ต้องระวังเรื่องความเสี่ยงในการเกิดลิ่มเลือด

การเลือกยาคุมกำเนิด

  • พิจารณาจากสภาพร่างกายและผลข้างเคียง: หากต้องการลดสิวและรักษาน้ำหนัก ยาคุมที่มีโปรเจสตินรุ่นที่ 3 เช่น Gestodene หรือ Desogestrel จะเหมาะสม
  • ความเสี่ยงของการเกิดลิ่มเลือด: หากมีความเสี่ยงสูงในการเกิดลิ่มเลือด หรือมีประวัติในครอบครัว ควรเลือกยาคุมที่มีโปรเจสตินรุ่นที่ 2 เช่น Levonorgestrel
  • ปริมาณเอสโตรเจน: การใช้ยาคุมที่มีเอสโตรเจนในปริมาณต่ำ (0.015~0.02mg) ช่วยลดผลข้างเคียง แต่บางครั้งอาจเพิ่มความเสี่ยงในการมีเลือดออกจากช่องคลอด

วิธีการใช้ยา

ยาคุมกำเนิดควรทานในเวลาเดียวกันทุกวัน ยาคุมส่วนใหญ่จะมีการใช้ 21 วันแล้วหยุด 7 วัน หรือใช้แบบต่อเนื่อง 28 วัน

  • แบบ 21 วัน: ทานยาคุมทุกวันเป็นเวลา 21 วัน แล้วหยุด 7 วัน จะมีการตกเลือดในช่วงที่หยุดยา
  • แบบ 28 วัน: 7 วันสุดท้ายจะเป็นยาที่ไม่มียาฮอร์โมน ทานยาคุมต่อเนื่องโดยไม่หยุด

หากลืมทานยา

  • ลืม 1 วัน: ทานยาที่ลืมทันทีแล้วทานยาตามปกติในวันถัดไป สามารถทานยาทั้งสองเม็ดในวันเดียวกันได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพ
  • ลืม 2 วัน: ทานยาที่ลืมในวันที่สองและทานยาตามปกติในวันถัดไป ใช้วิธีป้องกันเสริมอย่างเช่นถุงยางอนามัยในช่วง 7 วันถัดไป
  • ลืม 3 วันขึ้นไป: ควรเริ่มใหม่หรือทานยาในแผงใหม่ และใช้วิธีป้องกันเสริมในช่วง 7 วัน