ส่วนประกอบและลักษณะของยาคุมกำเนิด:
ยาคุมกำเนิดโดยทั่วไปประกอบด้วยฮอร์โมนสองชนิดคือ เอสโตรเจนและโปรเจสติน โดยแต่ละชนิดมีความแตกต่างกันตามประเภทของโปรเจสตินและปริมาณของเอสโตรเจน
1. การรวมกันของเกสโทเดน (Gestodene) และเอธินิลเอสตราไดออล (Ethinyl Estradiol)
- Meliane: Gestodene 0.075mg + Ethinyl Estradiol 0.02mg
- Myviora: Gestodene 0.075mg + Ethinyl Estradiol 0.03mg
- Senslibe: Gestodene 0.075mg + Ethinyl Estradiol 0.02mg
- Dearmee: Gestodene 0.075mg + Ethinyl Estradiol 0.02mg
- Dearmee Soon: Gestodene 0.06mg + Ethinyl Estradiol 0.015mg
คุณสมบัติ: Gestodene เป็นโปรเจสตินรุ่นที่สามที่ช่วยลดสิวและมีแนวโน้มที่จะไม่ทำให้น้ำหนักเพิ่ม ปริมาณ Ethinyl Estradiol ต่ำระหว่าง 0.015~0.03mg สามารถลดผลข้างเคียงเช่นคลื่นไส้และปวดหัวได้ แต่บางคนอาจมีโอกาสเสี่ยงต่อการมีเลือดออกเพิ่มขึ้น
2. การรวมกันของเลโวนอร์เจสเตรล (Levonorgestrel) และเอธินิลเอสตราไดออล (Ethinyl Estradiol)
- Alesse: Levonorgestrel 0.1mg + Ethinyl Estradiol 0.2mg
คุณสมบัติ: Levonorgestrel เป็นโปรเจสตินรุ่นที่สองที่อาจทำให้น้ำหนักเพิ่มและเกิดการบวมน้ำได้ แต่มีความเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดต่ำกว่าโปรเจสตินอื่นๆ
3. การรวมกันของเดโซเจสเตรล (Desogestrel) และเอธินิลเอสตราไดออล (Ethinyl Estradiol)
- Sensday: Desogestrel 0.15mg + Ethinyl Estradiol 0.02mg
- Mercilon: Desogestrel 0.15mg + Ethinyl Estradiol 0.02mg
คุณสมบัติ: Desogestrel ช่วยลดสิวและผลข้างเคียงที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงน้ำหนักน้อย แต่มีความเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดเพิ่มขึ้น
#ประเภทของยาคุมกำเนิด #การเปรียบเทียบยาคุมกำเนิด #วิธีเลือกยาคุมกำเนิด
ส่วนผสมและลักษณะของยาคุมกำเนิด:
ยาคุมกำเนิดประกอบด้วยฮอร์โมนหลักสองตัวคือ เอสโตรเจนและโปรเจสติน โดยแต่ละชนิดจะมีการผสมผสานของโปรเจสตินและปริมาณเอสโตรเจนที่แตกต่างกัน
1. การผสมผสานของ Gestodene + Ethinyl Estradiol
- Meliane: Gestodene 0.075mg + Ethinyl Estradiol 0.02mg
- Myviora: Gestodene 0.075mg + Ethinyl Estradiol 0.03mg
- Senslibe: Gestodene 0.075mg + Ethinyl Estradiol 0.02mg
- Dearmee: Gestodene 0.075mg + Ethinyl Estradiol 0.02mg
- Dearmee Soon: Gestodene 0.06mg + Ethinyl Estradiol 0.015mg
ลักษณะ: Gestodene เป็นโปรเจสตินรุ่นที่ 3 ที่ช่วยลดสิวและมีความเสี่ยงที่จะเพิ่มน้ำหนักต่ำ ปริมาณของ Ethinyl Estradiol ที่ต่ำ (0.015~0.03mg) ช่วยลดอาการข้างเคียงเช่น คลื่นไส้ ปวดหัว และการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนัก แม้ว่าอาจทำให้มีเลือดออกจากช่องคลอดได้บางกรณี
2. การผสมผสานของ Levonorgestrel + Ethinyl Estradiol
- Alesse: Levonorgestrel 0.1mg + Ethinyl Estradiol 0.2mg
ลักษณะ: Levonorgestrel เป็นโปรเจสตินรุ่นที่ 2 ที่อาจทำให้เพิ่มน้ำหนักและบวมได้ แต่มีความเสี่ยงที่จะเกิดลิ่มเลือดต่ำกว่าประเภทอื่นๆ
3. การผสมผสานของ Desogestrel + Ethinyl Estradiol
- Sensday: Desogestrel 0.15mg + Ethinyl Estradiol 0.02mg
- Mercilon: Desogestrel 0.15mg + Ethinyl Estradiol 0.02mg
ลักษณะ: Desogestrel ช่วยลดสิวและมีการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักน้อย แต่ต้องระวังเรื่องความเสี่ยงในการเกิดลิ่มเลือด
การเลือกยาคุมกำเนิด
- พิจารณาจากสภาพร่างกายและผลข้างเคียง: หากต้องการลดสิวและรักษาน้ำหนัก ยาคุมที่มีโปรเจสตินรุ่นที่ 3 เช่น Gestodene หรือ Desogestrel จะเหมาะสม
- ความเสี่ยงของการเกิดลิ่มเลือด: หากมีความเสี่ยงสูงในการเกิดลิ่มเลือด หรือมีประวัติในครอบครัว ควรเลือกยาคุมที่มีโปรเจสตินรุ่นที่ 2 เช่น Levonorgestrel
- ปริมาณเอสโตรเจน: การใช้ยาคุมที่มีเอสโตรเจนในปริมาณต่ำ (0.015~0.02mg) ช่วยลดผลข้างเคียง แต่บางครั้งอาจเพิ่มความเสี่ยงในการมีเลือดออกจากช่องคลอด
วิธีการใช้ยา
ยาคุมกำเนิดควรทานในเวลาเดียวกันทุกวัน ยาคุมส่วนใหญ่จะมีการใช้ 21 วันแล้วหยุด 7 วัน หรือใช้แบบต่อเนื่อง 28 วัน
- แบบ 21 วัน: ทานยาคุมทุกวันเป็นเวลา 21 วัน แล้วหยุด 7 วัน จะมีการตกเลือดในช่วงที่หยุดยา
- แบบ 28 วัน: 7 วันสุดท้ายจะเป็นยาที่ไม่มียาฮอร์โมน ทานยาคุมต่อเนื่องโดยไม่หยุด
หากลืมทานยา
- ลืม 1 วัน: ทานยาที่ลืมทันทีแล้วทานยาตามปกติในวันถัดไป สามารถทานยาทั้งสองเม็ดในวันเดียวกันได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพ
- ลืม 2 วัน: ทานยาที่ลืมในวันที่สองและทานยาตามปกติในวันถัดไป ใช้วิธีป้องกันเสริมอย่างเช่นถุงยางอนามัยในช่วง 7 วันถัดไป
- ลืม 3 วันขึ้นไป: ควรเริ่มใหม่หรือทานยาในแผงใหม่ และใช้วิธีป้องกันเสริมในช่วง 7 วัน