สำหรับคนไทย

#ธาตุเหล็ก #ประเภทของธาตุเหล็ก #การรับประทานธาตุเหล็กระหว่างตั้งครรภ์ ควรเริ่มเมื่อไหร่ และมีความแตกต่างกันอย่างไร?

WONIPHARMACY 판교원이약국 2025. 2. 22. 13:22

1. เฟมาติน แคปซูล (Fematin Capsule)

ส่วนประกอบหลัก: เฟอริทิน (ธาตุเหล็กจากม้ามม้า)
ปริมาณธาตุเหล็ก: มีธาตุเหล็ก 20 มก. ใน 155 มก.
คุณสมบัติ: ดูดซึมได้ดี มีผลกระทบต่อระบบทางเดินอาหารน้อย
แนะนำสำหรับ: ป้องกันภาวะขาดธาตุเหล็กระหว่างตั้งครรภ์ และดูดซึมได้เร็วในผู้ที่เป็นโรคโลหิตจาง


2. โวลเกร แคปซูล (Volgre Capsule)

ส่วนประกอบหลัก: ธาตุเหล็ก-อะซีทิลทรานส์เฟอริน
คุณสมบัติ: อ่อนโยนต่อกระเพาะอาหาร ไม่ได้รับผลกระทบจากอาหาร
แนะนำสำหรับ: เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการไม่สบายท้องจากธาตุเหล็กทั่วไป หรือหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะโลหิตจางเล็กน้อย


3. เฮโมคอม น้ำ (Hemocom Liquid)

ส่วนประกอบหลัก: ธาตุเหล็กโพลีมอลโทส (ธาตุเหล็กไตรวาเลนท์)
ปริมาณธาตุเหล็ก: 100 มก.
คุณสมบัติ: ดูดซึมได้ดี มีผลกระทบต่อระบบทางเดินอาหารน้อย ให้ธาตุเหล็กอย่างมั่นคง
แนะนำสำหรับ: เป็นของเหลวจึงดูดซึมได้เร็ว เหมาะสำหรับการรับประทานตั้งแต่ระยะแรกจนถึงระยะสุดท้ายของการตั้งครรภ์


4. เฮโมคอม พลัส แคปซูล (Hemocom Plus Capsule)

ส่วนประกอบหลัก: ธาตุเหล็กโพลีมอลโทส (ธาตุเหล็กไตรวาเลนท์)
คุณสมบัติ: รูปแบบแคปซูล พกพาสะดวกและรับประทานง่ายกว่าน้ำ


ปริมาณธาตุเหล็กที่แนะนำ และระยะเวลาการรับประทาน

  • ปริมาณที่แนะนำต่อวัน: 30-60 มก.; หากเป็นโรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก ควรรับประทาน 80-120 มก.
  • ระยะเวลาที่แนะนำ: เริ่มรับประทานตั้งแต่อายุครรภ์ 16 สัปดาห์ และต่อเนื่องจนถึง 6 สัปดาห์หลังคลอด
  • เคล็ดลับ: ควรรับประทานร่วมกับวิตามินซีเพื่อเพิ่มการดูดซึม

เปรียบเทียบราคา

ราคาจากถูกไปแพง: โวลเกร > เฟมาติน > แบบน้ำ (เช่น เฮโมคอม น้ำ)


สรุป

  • การรับประทานธาตุเหล็กในปริมาณสูงอาจทำให้ท้องผูก ควรเลือกขนาดที่เหมาะสมกับร่างกายของคุณ
  • หากเริ่มรับประทานช้า ต้องเพิ่มปริมาณที่รับประทานต่อวัน ดังนั้นควรเริ่มตั้งแต่อายุครรภ์ 16 สัปดาห์